กฏหมอ

ข้อควรปฏิบัติแพทย์

1. แพทย์ต้องใส่ชุดแพทย์ตลอดการเข้าเวรยกเว้น กรณี freeday(เสาร์,อาทิตย์) หรือวันหยุดหมอ ไม่ต้องใส่เครื่องแบบ แต่กรณีที่เป็นวันหยุด แพทย์จะต้องใส่อุปกรณ์ของแพทย์ ที่แสดงถึงความเป็นแพทย์ เช้นถุงมือ หูฟังแพทย์ หมวก ต่างๆ
2. แพทย์ต้องใช้รถหน่วยงานในการปฎิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ห้ามใช้รถส่วนตัวเป็นอันขาด
3. ในขณะเข้าเวร แพทย์ต้องประจำอยู่หน้าโรงพยาบาลเท่านั้น หากมีญาติพี่น้องครอบครัว สามารถมาหาที่โรงพยาบาลได้ แต่แพทย์จะไม่สามารถออกไปหาบุคคลในครอบครัวหรือเครือญาติตามที่ต่างๆได้
4. ห้ามใช้รถหน่วยงานในการทำธุระส่วนตัวทุกอย่าง เช่นการไปเรเบล หรือไปฟาร์ม กรณีเข้าเรเบล เข้าได้เฉพาะมีเคสเท่านั้น กรณีไปทำธุระส่วนตัวทุกชนิด เช่นนำของเก็บตู้เรเบล หรือไปฟาร์ม หรือไปหาญาติพี่น้องครอบครัว ต้องออกเวรก่อนเท่านั้น
5. เมื่อแพทย์เข้าเวร ต้องเข้าวอทุกครั้ง
6. เมื่อทำการเข้าเวร - ออกเวร ระบบจะเเจ้งโดยอัตโนมัติ ใน Discord ประเทศ หากไม่พบชื่อโปรดติดต่อทีมงาน
7. แพทย์ต้องเข้าเวรอย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง
8. หากต้องการลาหยุด ให้แจ้งในห้องแจ้งลาใน Discord ของประเทศ ( สามารถลาหยุดได้ 3 วัน ต่อ 1 สัปดาห์ )กรณีจำเป็นต้องลาติดต่อกันหลายวัน ต้องแจ้ง ผอ แพทย์
9. กรณีลาพักร้อน หรือ Long off คือการลาพัก 2 อาทิตย์ (1 รอบบิล) และจะต้องไม่มีการพบเจอในเมืองสามารถลาหยุดได้ โดยต้องแจ้งลาใน Discord ทุกครั้ง
10. กรณีลาพักร้อน หรือ Long off เป็นระยะเวลา 2 รอบบิลติดกัน จะถูกตักเตือน หรือ warning ยกเว้นมีเหตุจําเป็น จะต้องแจ้ง ผอ. แพทย์ และได้รับอนุญาตในการลา long off หรือลาพักร้อน มากกว่า 2 รอบบิล
11. การลาพักร้อน หรือ Long off จะไม่ได้รับเงินเดือนและโบนัส เมื่อถึงเวลาตัดรอบบิล
12. หากเข้าหน่วยงานแล้ว ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างน้อย 60 วัน หากลาออกก่อนถึงกำหนดจะถูกปรับเงิน จะถูกรีตัว ไม่เข้าประเทศมาปฎิบัติหน้าที่โดยไม่แจ้งลา ติดต่อกัน 3 วัน จะถูกรีตัว และปลดไวริส
13. การเหม่อ ไม่อยู่จอ หรือ AFK ต้องแจ้งในวอทุกครั้ง และสามารถเหม่อได้ ไม่เกิน 10 นาที หากจำเป็นมีธุระ OC นานกว่า 10 นาที ให้ออกเวร
14. หากหมอจะปิดโรงพยาบาลออกเวร หรือ ประเทศรี ให้หมอทำการออกเวรก่อนทุกครั้ง
15. หากแพทย์มีการกระทำ หรือวาจา เชิงไปในทางที่ ท้าทาย ยุยง ปั่นป่วน ยั่วยุ ให้ทำการร้องเรียนเเพทย์ใน Discord ประเทศ หรือ กดเปิด Ticket ติดต่อร้องเรียนหาทีมงาน
16. กรณีแพทย์ไม่ยอมออกเวรเเล้ว ตม ออกประเทศกลับเข้ามาเเล้วเวลาบัค หรือไม่ได้ของสวัสดีการเวลาเข้าเวรจะไม่ชดเชยทุกกรณี ( ยกเว้นเกมเเคช )
17. หน่วยงานแพทย์ทุกตําแหน่ง มีหน้าที่ดูแลหน่วยงานด้วยกัน และโรงพยาบาล สามาถจัดกิจกรรม หรือออกโปรโมชั่นในการ ขายสินค้า (ยาแก้เครียด) ได้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประชาชนและบุคคลทั่วไป
18. ห้ามหน่วยงานทุกตําแหน่ง นําข้อมูลของหน่วยงาน ไปส่งต่อถึงบุคคลภายนอกทุกกรณี ยกเว้นต่างหน่วยงาน ข้อมูลที่จําเป็น) เท่านั้น

การรับเคส

1. เปิดไซเรนทุกครั้งที่ออกไปรับเคสหรือเข้าพื้นที่
2. หากผู้สลบเป็นหน่วยงานตํารวจ (ตํารวจในเมือง) ที่เข้าเวร หรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ แพทย์สามารถทําการรักษาและฉีดยาหน้างานได้เลย หากผู้สอบเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่หน่วยงานพิเศษ Agent ต้องเอากลับ โรงพยาบาล หรือ สถานีตํารวจเท่านั้น จีงจะสามารถทําการรักษาได้ และไม่สามารถฉีดยาได้
3. กรณีผู้สลบเป็นผู้ต้องหาในคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์สามารถรักษา ณ ที่เกิดเหตุได้เลย โดยไม่ต้องอุ้มกลับโรงพยาบาล
4. ถ้าต้องการติดรถกลับกับแพทย์ ต้องเป็นประชาชน หรือแก๊งค์ ที่ไม่มีสตอรี่เท่านั้น และ ทางที่ผู้ติดรถจะขอไปด้วยต้องเป็นทางผ่าน หรือปลายทางเป็นโรงพยาบาลเท่านั้น ไม่สามารถแวะส่งตามใจประชาชนได้ หาก ณ ขณะนั้น มีเคสเยอะ ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของแพทย์ ว่าจะรับหรือไม่
5. ประชาชน แก๊งค์ ครอบครัว ที่มีสตอรี่ จะไม่สามารถรับบริการฉีดยาจากแพทย์ได้ หากไม่มีสตอรี่ สามารถฉีดยาที่หน้าโรงพยาบาลได้ตามปกติ
6. หมองดรับเคสก่อนประเทศรี 15 นาที หากมีสตอรี่ช่วงเวลาที่หมองดรับเคส หมอจะรับเคสอีกครั้งหลังประเทศรีเรียบร้อยแล้ว ( กรณีมีสตอรี่ก่อนประเทศรี 15 นาที แพทย์จะไม่ประกาศคูลดาวน์ ไม่นับไฟท์ ใดๆทั้งสิ้น )
7. กรณีมีสตอรี่ แพทย์จะเข้าไปรับผู้สลบได้ต่อเมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้วเท่านั้น หากเกิดเหตุการณ์ยืดเยื้อนานเกินกว่าที่ควรจะเป็น แพทย์สามารถเรียกตำรวจเข้าพื้นที่เพื่อระงับเหตุได้
8. กรณีที่แพทย์จะเข้าไปรับผู้สลบระหว่างมีสตอรี่ แต่คู่กรณีไม่ยินยอมให้เอาผู้สลบออกไปรักษา แพทย์สามารถเรียกตำรวจเข้าพื้นที่ได้
9. เรื่องการเข้าห้องติดต่อแพทย์ ใน Discord ประเทศ หากไม่ได้มีการประกาศเรียก ห้ามเข้า
10. ประชาชนที่กดเคสใน Dropbox ปรับ 30K ต่อคน
11. ในการรับเคส หากมีผู้สลบน้อยกว่า หรือเท่ากับ 5 คน ในพื้นที่ (ที่ไม่ใช่เคสสตอรี่) แพทย์สามารถชุบทีละคนได้ แต่หากมีจำนวนเคสที่เยอะมาก อนุญาตให้ใช้ชุบหลายคนได้ ตามดุลยพินิจของแพทย์
12. ในการรับเคส หากมีผู้สลบจํานวนหนึ่งในพื้นที่ หรือมีการแต่งกายที่บ่งบอกกลุ่มที่ชัดเจน เช่น Gang vs Gang, ครอบครัว vs ครอบครัว เป็นต้น แพทย์จะต้องทําการประเมินว่า เป็นการเปิดสตอรี่กันหรือไม่ หากเป็นการเปิดสตอรี่ ต้องนํากลับโรงพยาบาลจึงจะรักษาได้เท่านั้น

การรับเคสในพื้นที่วงแดง

1. ในพื้นที่วงสีแดง แพทย์ไม่สามารถดําเนินการ Blacklist ได้ในทุกกรณี
2. หากผู้สลบไม่ติดสตอรี่ หรือ ประเมินแล้วว่าไม่มีสตอรี่อยู่ขณะนั้น ต้องนํากลับสถานีตํารวจทุกกรณี (อาจะเป็นเคสปล้นได้ จึงต้องนํากลับสถานีตํารวจ)
3. หากผู้สลบติดสตอรี่ หรือ ประเมินแล้วว่ามีการเปิดสตอรี่เกิดขึ้น ต้องนํากลับโรงพยาบเท่านั้น

ข้อควรปฏิบัติขณะมีสตอรี่

1. แพทย์ต้องรอให้เหตุการณ์สงบลงก่อน แล้วค่อยลงจากรถ
2. เปิดไซเรนเมื่อเข้าพื้นที่ทุกครั้ง
3. แพทย์สามารถชุบแก๊งค์ที่ชนะในไฟท์นั้นๆได้เลย ณ ที่เกิดเหตุ ส่วนฝ่ายที่แพ้ จะต้องอุ้มกลับไปรักษาที่โรงพยาบาล
4. เมื่อแพทย์เข้าพื้นที่ และเริ่มทำการรักษาแล้ว ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ไม่สามารถเบิ้ลรถ บัฟผู่สลบ เคลื่อนย้ายผู้สลบ หากแพทย์เห็นหรือได้ยินจะมีโทษตามกฏ blacklist เพราะถือว่าก่อกวนการทำงานของแพทย์
5. แพทย์ห้ามฉีดยาให้แก๊งค์ที่มีสตอรี่ หากต้องการฮีล หลังจากรักษาแล้ว ให้นอนเตียงที่โรงพยาบาลเท่านั้น
6. หลังจากรักษาเสร็จครบทุกคนแล้ว ( รวมถึงนอนเตียงกันครบทุกคนแล้ว ) ห้ามให้แก๊งค์หรือประชาชนที่มีสตอรี่รวมตัวกันหน้าโรงพยาบาล หากพบเจอครั้งแรกให้ตักเตือน หากตักเตือนแล้วยังนิ่งเฉย ให้ติดแบล็คลิสทั้งแก๊งค์ ครอบครัว หรือ กลุ่ม ที่เล่นสตอรี่อยู่
7. แพทย์ไม่รับส่งบุคคลหรือแก๊งค์ที่มีสตอรี่
8. หากมีการเตือน หรือประกาศเรียกจากแพทย์ แล้วไม่มาติดต่อภายใน 15 นาที แพทย์จะทำการ Blacklist ตามข้อหาที่เกิดขึ้นทันที

การปฏิบัติหน้าที่ในวงเคอร์ฟิว

1. แพทย์จะต้องนั่งรออยู่บนรถ ( ปิดไซเรน )
2. แพทย์จะต้องรอให้ตำรวจเคลียพื้นที่ก่อน ( 30 วิ เป็นการนับของตำรวจ ) ถึงจะเข้าพื้นที่ได้
3. แพทย์สามารถเข้าได้โดยไม่ต้องประกาศจากหน่วยงานแพทย์
4. เมื่อตำรวจเคลียร์พื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงจะเปิดไซเรนเพื่อเข้าพื้นที่ ( นับว่าเป็นการเข้าพื้นที่ของแพทย์ )
5. หมอจะไม่สามารถเล่นสตอรี่ใดๆได้ยกเว้นสตอรี่อุ้มเอ๋อ หรือ การขอกำลังเสริมจากตำรวจ

การลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่เเพทย์

เมื่อเจ้าหน้าที่เเพทย์ได้กระทำความผิด ทั้งจากการร้องเรียน หรือจากการยอมรับผิดเอง ทั้งจำนน ต่อหลักฐานอื่นๆ จะได้รับโทษดังต่อไปนี้

• โทษทางวินัยขั้น 1 : ปรับ 100,000$
• โทษทางวินัยขั้น 2 : ปรับ 150,000$
• โทษทางวินัยขั้น 3 : ลดขั้น
• โทษทางวินัยขั้น 4 : ใบเหลือง 🟨
• โทษทางวินัยขั้น 5 : ปลดจากหน่วยงาน
• โทษทางวินัยขั้นร้ายแรง (กรณีเเพทย์) : การลงโทษขั้นนี้มีตั้งแต่ รีตัว ถึงขั้น ปลดไวลิส